
รับเป็นที่ปรึกษากฎหมายทั่วไป
รับเป็นที่ปรึกษากฎหมายทั่วไป
ความสำคัญของการจ้างทนายเป็นที่ปรึกษา และข้อเสียของการไม่ว่าจ้างทนายเป็นที่ปรึกษา
ทนายความ หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย ซึ่งการใช้บริการทนายความนั้นไม่ได้ใช้เฉพาะแค่ว่าความในชั้นศาลเท่านั้น แต่ยังใช้บริการในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น การให้คำปรึกษาในเรื่องการทำสัญญาซื้อขายต่างๆ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูง บริษัท ห้างร้าน หรือแม้แต่กระทรวงต่างๆ ก็จำเป็นต้องมีทนายความหรือฝ่ายกฎหมายเพื่อแก้ไขข้อพิพาทต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงานครับ จึงถือว่าทนายความเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้เรานั้นมีความเข้าใจในกฎหมายและทำให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ
เราสามารถศึกษากฎหมายด้วยตัวของเราเอง และบางครั้งยังใช้ข้อกฎหมายที่เรารู้ตัดสินความต่างๆ ได้ แล้วทำไมเราต้องจ้างทนายด้วยล่ะก็ในเมื่อเรารู้กฎหมายอยู่แล้ว ก็เพราะว่าในบางเรื่องนั้นไม่สามารถใช้กฎหมายที่มีอยู่ตัดสินใจ ยังต้องใช้สิ่งประกอบอีกหลายประการ เป็นตัวชี้วัดช่วยตัดสินซึ่งเราอาจรู้กฎหมายที่เป็นหลักใหญ่แต่อาจไม่เข้าใจในหลักการย่อยๆ นั่นเองครับ นอกจากนี้การจ้างทนายทำให้เราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการไปศาล หรือต้องเจอหน้าคู่กรณีด้วย เพราะสามารถมอบอำนาจให้ทนายดำเนินการให้เอง ประหยัดเวลา และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีเลย เพราะมีทนายคอยทำคดีให้ เพียงแต่ฟังคำแนะนำและปฏิบัติตามเท่านั้นเอง หรือสำหรับใครที่มีเรื่องทะเลาะหรือมีกรณีพิพาทในที่ทำงาน หรือกับบุคคลภายนอก ถ้ามีฝ่ายกฎหมายและทนาย ก็สามารถจบเรื่องได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากรู้ข้อกฎหมายและหาทางให้ไกล่เกลี่ยให้จบลงโดยง่าย และยังได้เรียนรู้ขั้นตอนในการขึ้นศาลมากขึ้น เนื่องจากมีทนายคอยชี้แนะนั่นเอง
แต่ถ้าเราไม่จ้างทนายเป็นที่ปรึกษาในด้านกฎหมายต่างๆ โดยในส่วนของบริษัท หากมีข้อพิพาทกับลูกค้า คนในองค์กร หรือระหว่างบริษัทก็จะเกิดความยุ่งยาก เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งอาจมีทนายคอยดูแลในเรื่องข้อกฎหมายก็จะทำให้ได้เปรียบมากกว่าทำให้เราเสียผลประโยชน์ที่ควรได้ไป แถมยังต้องดำเนินการเรื่องศาลเองอีก เสียรู้ เสียเงิน เสียเวลาครับ หรือสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องของการทำสัญญาซื้อขาย หรือเรื่องพินัยกรรมมรดกต่างๆ ก็อาจโดนเอารัดเอาเปรียบถูกโกงได้ครับ เพราะไม่รู้ข้อกฎหมายนั่นเอง
ข้อดีของการจ้างทนาย สำหรับบริษัทคือหากเรามีกรณีพิพาทต่างๆ จะสามารถจบลงได้ง่าย ไม่ต้องปวดหัวในเรื่องกฎหมายหรือต้องเสียเปรียบฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเราเองก็มีทนายที่รู้ข้อกฎหมายย่อมทำในสิ่งที่ส่งผลดีกับเราที่สุด หรือถ้าเราต้องฟ้องร้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือจำเลยถ้ามีทนายก็จะเอื้อประโยชน์ให้เราได้มากกว่าแน่นอนครับ แต่ข้อเสียหากไม่จ้างทนาย ก็ทำให้เรื่องต่างๆ นั้นยืดเยื้อ เสียเงินทอง เสียเวลามากขึ้นและอาจเสียเปรียบฝ่ายตรงข้ามที่มีทนายที่รู้ข้อกฎหมายได้ครับ เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหาด้านข้อกฎหมายควรจ้างทนายไว้เป็นที่ปรึกษารับรองว่าคุณจะอุ่นใจและมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้นครับ
บริษัท ทนายไซเบอร์ จำกัด รับปรึกษาคดีความ ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนาย ว่าจ้างทนาย โดยทนายมืออาชีพ ให้บริการปรึกษาปัญหากฎหมาย เช่น คดีแพ่ง คดีอาญา คดีครอบครัว คดีมรดก ฟ้องหย่า คดีเช็ค ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู เป็นต้น ตลอดจนบริการงานทางด้านคดีความทางศาลทุกคดี
สำหรับลูกค้าทั่วไป
(1.)ค่าบริการเป็นที่ปรึกษากฎหมาย (แบบรายเรื่อง/คดี)
1.1) หากท่านประสงค์จะปรึกษากฎหมายกับทนายความทางโทรศัพท์ ท่านต้องชำระค่าปรึกษากฎหมาย ชั่วโมงละ 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 2,500 บาท (สองพันห้าร้อยบาทถ้วน) โดยท่านต้องชำระค่าบริการดังกล่าวก่อนเริ่มปรึกษากฎหมายกับทนายความ
1.2) หากท่านประสงค์จะปรึกษากฎหมายกับทนายความเป็นการส่วนตัวที่บริษัทฯ ท่านต้องชำระค่าปรึกษา ชั่วโมงละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) (โดยนัดวันและเวลากับทนายความล่วงหน้า) ในเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.
1.3) หากท่านประสงค์ให้ทนายความเดินทางไปให้คำปรึกษากฎหมายที่บริษัท, ห้าง ร้าน, ที่บ้านหรือสำนักงานของท่าน หรือที่อื่นใด ตามที่ท่านนัดหมาย มีค่าบริการดังนี้
-ในเขตกรุงเทพมหานครหรือเขตใกล้เคียง ท่านต้องชำระค่าปรึกษากฎหมาย ชั่วโมงละ 10,000 บาท และค่าเดินทางในกรุงเทพมหานคร ครั้งละ 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ส่วนนอกเขตกรุงเทพ คิดตามอัตราของบริษัทฯ ในเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.
1.4) ขั้นตอนก่อนดำเนินงาน ท่านต้องชำระเงินค่ามัดจำล่วงหน้าก่อน 50 เปอร์เซ็นต์ ของยอดที่ต้องชำระ หรือแล้วแต่ตกลงเป็นรายกรณีไป
1.5) หลังจากทนายความให้คำปรึกษากฎหมายแก่ท่านแล้ว บริษัทฯ จะทำรายงานเกี่ยวกับเรื่อง, ข้อกฎหมาย, คำพิพากษาฎีกา (ถ้ามี) ให้แก่ท่านด้วย
1.6) หลังจากท่านได้ปรึกษากฎหมายกับทนายความแล้ว หากท่านยังมีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ปรึกษา ท่านสามารถปรึกษาเพิ่มเติมทางโทรศัพท์, อีเมล, ไลน์, เว็บไซต์ ในแต่ละเรื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ในเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.)
1.7) หากท่านประสงค์จะแต่งตั้งให้เป็นทนายความว่าความแต่ละคดี บริษัทฯ คิดค่าบริการตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง หรือแต่ละคดีเป็นรายกรณีไป
(2.)ค่าบริการเป็นที่ปรึกษากฎหมาย (แบบรายเดือน)
2.1) ค่าจ้างที่ปรึกษารายเดือน ขั้นต่ำเดือนละ 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) โดยท่านต้องชำระก่อนเริ่มงาน (หากท่านยกเลิกสัญญาก่อนที่จะครบกำหนดเวลา บริษัทฯ จะไม่คืนเงินค่าจ้างให้ท่าน)
2.2) ท่านจะได้รับบริการฟรี (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) ในการติดตามเร่งรัดหนี้สิน,สืบทรัพย์บังคับคดี (รวมค่าตรวจสอบรูปพรรณสัณฐาน,ค่ารับรองทะเบียนราษฎรลูกหนี้,ค่าคัดหนังสือ รับรองนิติบุคคลลูกหนี้,ค่าหนังสือบอกกล่าวทวงถามลูกหนี้โดยทนายความ) จนกว่าท่านจะได้รับชำระเงินจากลูกหนี้หรือจำเลย
2.3) ให้คำปรึกษากฎหมายฟรี ทางโทรศัพท์, ทางอีเมล์,ไลน์, เว็บบอร์ด ในเวลาทำการ (วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ถึง 17.00 น.)
2.4) หากท่านประสงค์จะแต่งตั้งให้เป็นทนายความว่าความแต่ละคดี หรือแต่งทนายความเข้าต่อสู้คดีกับโจทก์ บริษัทฯ คิดค่าบริการในอัตราพิเศษเป็นรายคดีไป
2.5) ให้คำปรึกษากฎหมายกับทนายความเป็นการส่วนตัวที่บริษัทฯ แต่ละเรื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (โดยนัดวันและเวลากับทนายความล่วงหน้า)
2.6) หากท่านประสงค์ให้ทนายความเดินทางไปที่บริษัท, ห้างร้าน, ที่บ้านท่าน หรือที่อื่นใดตามที่ท่านนัดหมาย เพื่อปรึกษากฎหมายเป็นการส่วนตัว บริษัทฯ คิดค่าปรึกษาในราคาพิเศษ (รวมค่าเดินทาง) ชั่วโมงละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน)
-ในต่างจังหวัด ท่านต้องชำระค่าเดินทางต่อวัน ตามอัตราดังต่อไปนี้
ระยะทาง ไม่เกิน 300 กม. คิดค่าเดินทาง = 3,500 บาท
ระยะทาง 300 – 500 กม. คิดค่าเดินทาง = 4,500 บาท
ระยะทาง 500 กม. ขึ้นไป คิดค่าเดินทาง = 6,500 บาท
หมายเหตุ ค่าเดินทางดังกล่าวไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าที่พัก, ค่าตั๋วรถเดินทาง, ค่าน้ำมันรถยนต์, ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ทางราชการหรือเอกชนออกให้ (ตามใบเสร็จรับเงิน)