ดูตะกร้าสินค้า เพิ่ม “ขายอนุสิทธิบัตรกาวดินน้ำมัน” ในตะกร้าเรียบร้อย
งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

0ขายโดย

งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

 

งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

งานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

สถานะสิทธิบัตร

อยู่ระหว่างยื่นคำขอ

ที่มาของงานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

โดยปกติแล้ว ผลไม้เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วตั้งทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่งจะเกิดการเหี่ยวเฉา และเน่าเสียตามธรรมชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากธรรมชาติของผลไม้นั้นจะมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ดังจะเห็นได้ว่าผลไม้ส่วนใหญ่
จะมีลักษณะอวบน้ำ และมีสารอาหารที่จุลินทรีย์ชอบอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ตามชนิดและสายพันธุ์ของผลไม้ที่เป็นอาหาร แม้ว่าผลไม้เหล่านั้นจะมีกระบวนการป้องกันการสูญเสียน้ำและการเข้าทำลายของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคด้วยการผลิตสารที่มีลักษณะเป็นฟิล์มบางๆ คล้ายไขเคลือบผิวอยู่
แต่สารเคลือบผิวเหล่านี้จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ ทำให้ผลไม้เกิดการสูญเสียน้ำและเกิดการเหี่ยวเฉา
ซึ่งการเหี่ยวเฉา หรือการเข้าทำลายของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคจะช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว และการปกป้องพื้นผิวของผลไม้ให้คงความสดและลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค
ที่ติดมากับผลไม้ชนิดนั้นๆ
มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้เป็นผลไม้ที่มีศักยภาพในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่มีอายุการเก็บรักษาและการวางจำหน่ายสั้นเนื่องจากผลนิ่มและเน่าเสียเร็ว การใช้สารเคลือบผิวจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถยืดอายุการเก็บรักษามะม่วงได้ กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยสำนักเทคโนโลยีชุมชน ได้คิดค้นเทคโนโลยีการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว ด้วยกระบวนการเคลือบผิวผลไม้เพื่อชะลอการคายน้ำ เป็นการเคลือบผิวผลไม้ด้วยสารที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ช่วยยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว และเป็นสารเคลือบผิวผลไม้บริโภคได้ เพื่อลดความเสี่ยงของผู้บริโภคที่จะได้รับสารพิษ ทั้งจากตัวสารเคลือบผิวเอง และจากสารฆ่าแมลงที่ตกค้าง

 สรุปเทคโนโลยีของงานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

สารเคลือบผิวมะม่วงที่พัฒนาขึ้นผ่านการตรวจสอบจากสถาบันกลางและศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ แล้วว่าไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค ไม่มีผลต่อสุขภาพแม้รับประทานทั้งเปลือก เพราะสารเคลือบผิวที่พัฒนาขึ้นนี้ใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติทั้งหมด และนอกจากเคลือบเพื่อความสวยงาม ยืดอายุ ชะลอการสุก ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์แล้ว ค่าความหวานและค่าความเป็นกรดด่าง ก็ไม่แตกต่างไปจากมะม่วงธรรมดา ที่สำคัญมีราคาถูกกว่าแวกซ์ที่ใช้ในการเคลือบผิวตามวิธีเดิมหลายเท่าซึ่งอาจจะช่วยเกษตรกรในการลดภาระต้นทุนจากการซื้อสารเคมีที่ใช้ในการเคลือบผิวผลไม้ได้อีกทางหนึ่ง

จุดเด่นของเทคโนโลยีงานวิจัยสารเคลือบผิวมะม่วงที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคเพื่อยืดอายุผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว

• สามารถยับยั้งเชื้อราคอลเลคโตตริกัม (Colletotrichum gloeosporioides) ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคจำพวกที่พบบนมะม่วงได้ดีกว่าสารเคมีต้านเชื้อราคาร์เบนดาซิม ที่ปริมาณสูงสุดตามที่มาตรฐานกำหนดที่ 1,000 ppm
• เมื่อใช้สารเคลือบผิวผลไม้ร่วมกับการเก็บรักษาที่ตู้ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (10 องศาเซลเซียส, 80%RH) จะสามารถยืดอายุมะม่วงให้คงความสดได้นานกว่า 21 วัน

ความร่วมมือที่เสาะหา

เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ

CR thailandtechshow

ข้อมูลติดต่อสอบถามงานวิจัย

ชื่อ นาย อดิเรก ล้อมวงษ์
อีเมล business_noom@hotmail.com
Facebook www.facebook.com/copy8
line Copyri.com

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

Translate »