การใช้เครื่องหมายการค้าประเภทเครื่องหมายชุดที่ใช้เป็นหลักประกัน
เครื่องหมายการค้าที่ใช้เป็นหลักประกัน ถ้าเป็นเครื่องหมายชุด จะต้องนำไปใช้เป็นหลักประกันทั้งชุดด้วย
ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้า มาตรา50 บัญญัติว่า เครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้เป็นเครื่องหมายชุดนั้น จะ
โอนหรือรับมรดกกันได้ต่อเมื่อเป็นการโอนหรือรับมรดกกันทั้งชุด
ดังนั้น การนำเครื่องหมายการค้าบางเครื่องหมายใช้เป็นหลักประกันบางส่วน หากมีการบังคับโอนเครื่องหมายการค้า
นั้น จะทำให้บังคับการโอนในส่วนของเครื่องหมายการค้าที่เป็นเครื่องหมายชุดแต่มิได้นำมาใช้เป็นหลักประกันด้วยไม่
ได้
เครื่องหมายชุด หมายถึงเครื่องหมายการค้าหลายเครื่องหมายที่ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายนั้นได้นำไปขอจดทะเบียน
ต่อนายทะเบียนสำหรับสินค้าที่จำพวกเดียวกันหรือต่างจำพวก แต่มีลักษณะอย่างเดียวกัน ซึ่งนายทะเบียนจะมีคำสั่ง
ให้ผู้ขอจดทะเบียนนั้นจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายชุดกันไว้
การจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายชุด ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเท่ากับได้ให้ความรับรองต่อนายทะเบียนไว้แล้วว่า
ถ้าจะทำการโอนหรือรับมรดกกัน จะต้องโอนหรือรับมรดกกันทั้งชุด กล่าวถือถ้าจะโอนเครื่องหมายการค้า จะต้องโอน
ให้แก่ผู้รับโอนคนเดียวกันหรือรายเดียวกันทั้งหมดโดยไม่แยกโอนเครื่องหมายการค้าที่เป็นเครื่องหมายชุดกันนั้นต่าง
เจ้าของกัน หรือถ้าเป็นการรับมรดก ผู้ที่เป็นจะรับมรดกจะต้องรับเครื่องหมายการค้าที่เป็นเครื่องหมายชุดกันนั้นไป
ทั้งหมดด้วย ผู้จัดการมรดกจะแยกแบ่งโอนมรดกที่เป็นเครื่องหมายชุดแยกให้ทายาทต่างคนกันนั้นไมได้ เพราะนาย
ทะเบียนจะไม่จดทะเบียนโอนให้แก่ทายาทต่างรายกัน
การนำเครื่องหมายการค้าใช้เป็นหลักประกัน บางกรณีเครื่องหมายการค้านั้นเป็นเครื่องหมายชุดกับเครื่องหมายการค้า
ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของนายทะเบียน โดยนายทะเบียนยังไม่ได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้น เช่นนี้
ธนาคารหรือสถานบันการเงินก็ควรที่จะเรียกให้ผู้ขอกู้เงิน นำเครื่องหมายการค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่ได้
รับการจดทะเบียน มาเป็นหลักประกันร่วม แม้ว่าเมือมีการนำเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้วใช้เป็นหลักประกัน
แล้วก็ตาม ผู้ขอจดทะเบียนอาจนำเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่ใช้เป็นหลักประกันไปขอจด
ทะเบียนต่อนายทะเบียนเพิ่มเติม สำหรับสินค้าในจำพวกหรือต่างจำพวกกับกับที่ใช้เป็นหลักประกัน เพิ่มเติมในภาย
หลัง โดยเครื่องหมายการค้านั้นอาจจะต้องจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายชุดกับเครื่องหมายการค้าที่ใช้เป็นหลักประกัน
ก็ได้ ซึ่งเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่นำเครื่องหมายการค้าของตนใช้เป็นหลักประกัน จะต้องแจ้งข้อมูลนี้ให้สถาบันการ
เงินหรือธนาคารนั้นทราบด้วย
มีบางธนาคารไม่ยอมนำเครื่องหมายชุดเข้ามาเป็นหลักประกันร่วม เพราะจำเป็นจะต้องเร่งปล่อยกู้ให้ทันในวันงานที่
นายกรัฐมนตรีไปเปิดงานโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน โดยขอให้ผู้เขียนบันทึกหลักประกันเฉพาะบาง
เครื่องหมายการค้า ซึ่งกรณีนี้ผู้เขียนเคยขอให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารท่านนั้น ทำหนังสือถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า
ธนาคารจะยอมรับผิดในกรณีที่นายทะเบียนไม่สามารถจดทะเบียนโอนเครื่องหมายการค้าที่ถูกบังคับหลักประกันได้
เพราะการเป็นหลักประกันไม่ครอบคลุมถึงเครื่องหมายการค้าที่เป็นเครื่องหมายชุด และไม่ได้นำมาใช้เป็นหลักประกัน
ร่วมด้วย ปรากฏต่อมาว่าทางธนาคารได้เรียกให้ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นนำเครื่องหมายการค้าที่เป็น
เครื่องหมายชุดเข้ามาเป็นหลักประกันร่วมเพิ่มเติม ดังนั้นผู้เขียน จึงได้บันทึกหลักประกันเครื่องหมายการค้าทั้งชุดไป
เรียบร้อยแล้ว