งานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
งานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
งานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
งานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
-
คำขอสิทธิบัตร เลขที่คำขอ 1501000235 เรื่อง ผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วน ยื่นคำขอวันที่ 9 มกราคม 2558
ที่มาของงานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
พฤติกรรมและลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบัน มีผลให้มีการสะสมไขมันในชั้นผิวหนัง วิธีการลดปริมาณไขมันใต้ผิวหนังที่มีใช้ในปัจจุบัน ทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทาเฉพาะที่ การนวดด้วยมือและด้วยเครื่องมือ การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ การดูดไขมัน เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทาเฉพาะที่เพื่อกระชับสัดส่วน ลดปริมาณไขมันสะสมในชั้นใต้ผิวหนังนับเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด สะดวก สามารถใช้เองได้ รูปแบบผลิตภัณฑ์ทาเฉพาะที่มีหลายชนิด ได้แก่ เจล โลชั่น ครีม แต่ในรูปแบบของไมโครอิมัลชัน ซึ่งเป็นระบบนำส่งที่เตรียมง่าย มีความคงตัวทางกายภาพดี มีความสามารถในการทำละลายสารต่างๆได้สูง และสามารถนำส่งสารเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังไม่เคยมีผู้ประดิษฐ์มาก่อน ผู้ประดิษฐ์จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วนที่อยู่ในรูปแบบของไมโครอิมัลชันซึ่งสามารถนำสารสกัดคาเฟอีน สารสกัดถั่วเหลือง สารสกัดพริก และสารสำคัญอื่นๆ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดและป้องกันการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณลักษณะทางกายภาพที่ดี มีความคงตัว มีประสิทธิภาพในการช่วยลดกระชับสัดส่วน เช่น ต้นขา ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นของเหลวใสสีเหลืองน้ำตาล มีกลิ่นหอมของน้ำมันตระกูลส้ม สามารถกระจายตัวและซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี สามารถล้างออกได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
สรุปเทคโนโลยีของงานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
– ใช้ส่วนผสมสารสกัดจากพืชเป็นสารออกฤทธิ์เพื่อใช้ในการดูแลรูปร่าง
– มีผลการทดลองในอาสาสมัครหญิงที่ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นี้มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และไม่พบอาการแพ้ระคายเคืองผิวหนัง
จุดเด่นของเทคโนโลยีงานวิจัยไมโครอิมัลชันสำหรับกระชับสัดส่วน
• ซีเมนต์เชื่อมกระดูกสามารถเข้ากับร่างกายได้ดี ไม่เป็นพิษและก่อให้เกิดการสร้างการยึดเกาะของกระดูกตามธรรมชาติ
• ซีเมนต์สามารถเซ็ตตัวได้เองในสภาวะของร่างกาย และไม่เกิดความร้อนในขณะเซ็ตตัว ทำให้สามารถขึ้นรูปเป็นรูปร่างใดๆ ก็ได้ตามความต้องการใช้งาน แม้กระทั่งส่วนที่มีความซับซ้อน
• ซีเมนต์สามารถฉีดผ่านเข็มฉีดยา เข้าไปรักษาในบริเวณที่เป็นโพรงหรือบริเวณที่แคบ ทำให้การผ่าตัดใช้เวลาสั้นและผู้ป่วยพักฟื้นได้อย่างรวดเร็ว
• มีความแข็งแรงเพียงพอหลังจากเซ็ตตัว และเซ็ตตัวได้ในเวลาที่เหมาะสมกับการผ่าตัด โดยไม่ละลายออกไปในของเหลวในร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการสลายตัวอย่างช้าๆ เพื่อให้เกิดช่องว่างในการทำให้เนื้อเยื่อกระดูกสามารถเข้าไปเจริญเติบโตและการยึดเกาะกับกระดูกตามธรรมชาติได้ดี
• ซีเมนต์กระดูกนี้มีแนวโน้มในการนำมาใช้ในทางการแพทย์มากขึ้น เนื่องจากมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซีเมนต์กระดูกจัดว่าเป็นวัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาสูงมาก ทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการได้รับการรักษา
• ส่วนผสมของซีเมนต์สามารถผลิตขึ้นได้เองทั้งหมดในประเทศไทย ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และมีต้นทุนต่ำ
• ซีเมนต์กระดูกนี้สามารถเซตตัวได้ที่อุณหภูมิห้อง จึงสามารถพัฒนาต่อยอดนำมาขึ้นรูปที่ซับซ้อนแบบสามมิติ (3D printing) โดยการใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์มาช่วยออกแบบ จึงเหมาะสำหรับการทำกระดูกที่มีความซับซ้อนของผู้ป่วยแต่ละรายได้
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
CR thailandtechshow
